เพื่อนเราถึงแก่กรรม

ถึง เพื่อน ๆ เพื่อนเราชื่อ อิทธิพล อรรณพ ณ อยุธยา ถึงแก่กรรมเมื่อวันศุกร์ที่ 16 พ.ย. ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดสระแก้ว ชมรมฯเป็นเจ้าภาพสวดอภิรรมศพ ในวันจันทร์ที 19 พ.ย. และกำหนดฌาปณกิจศพ ในวันอังคารที่ 20 พ.ย. เวลาประมาณ 15.00 น.เป็นต้นไป จึงขอเชิญเพื่อน ๆ ร่วมงานดดยพร้อมเพรียงกัน

สารสัมพันธ์ ต.ค.55

สารสัมพันธ์จากประธาน ฯ ผมต้องขอขอบคุณคณะกรรมการจัดงาน ราตรีสองแคว ๕๕ ที่ให้ความร่วมมือ และให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรมหารายได้ในครั้งนี้ ตลอดทั้งเพื่อน ๆ ที่ได้ช่วยจำหน่ายบัตร ถือได้ว่าเป็นการรวมพลังร่วมทำกิจกรรมอันสำคัญยิ่ง ดังปรากฏชัดเจนในงานแสดงความยินดี พลโท เด่นดวง ทิมวัฒนา คณะกรรมการและเพื่อน ๆ ( สาย กทม.ฯ) ที่ให้ความอบอุ่นต้อนรับเพื่อน ๆ ที่เดินทางไปจากพิษณ

ุโลก ตลอดทั้งตอบรับเข้าร่วมงานเป็นอย่างดี และอีกงานหนึ่งที่จะลืมมิได้คืองานแสดงความยินดี ท่าน บุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ที่ได้รับตำแหน่งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร มีเพื่อน ๆ เดินทางไปร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดียิ่ง และให้ความสำคัญในการจัดงาน ราตรีสองแคว ๕๕ โดยตอบรับว่าจะเดินทางไปร่วมงานเป็นประธานกล่าวเปิดงาน ฯ ผมต้องขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า สำหรับการจัดงาน ราตรีสองแคว ๕๕ คงเหลือเวลาเตรียมการไม่มากแล้ว การจำหน่ายบัตรก็ใกล้จะหมดแล้วเช่นกัน จึงขอความร่วมมือและเป็นกำลังใจให้คณะกรรมการ และเพื่อนๆได้กรุณาช่วยจำหน่ายบัตรให้หมดภายในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะขอเชิญประชุมเพื่อสรุปปัญหา ข้อขัดข้องและแผนงาน ในวันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๕๕ เวลา ๑๘.๐๐ น. ณ โรงเรียนกวดวิชาสุดประเสริฐ ท้ายสุดนี้หวังว่าคงได้รับความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิกชมรมศิษย์เก่า พ.พ. ๑๔ – ๑๖ ทุกๆ คนเช่นเคย ขอนำคำกล่าวของ อาจารย์ สุนทร อ่อนหลิ่ม ที่กล่าวไว้ว่า รุ่น พ.พ. ๑๔- ๑๖ รุ่นของเธอ ครูสารภาพว่าชื่นชม ชื่นชอบ เป็นศิษย์เก่ารุ่นหนึ่งที่มีศักยภาพ และถ้าจะเอามาประกวดกันจะสู้ไม่ได้อยู่รุ่นเดียว คือ พ.พ. ๐๖ – ๐๘ ที่ว่า พ.พ. ๑๔ – ๑๖ เด่นดังเพราะว่ามีผลงานประจักษ์ จะเป็นเรื่องการจัดงาน, ผลงานการทำหนังสือ ทำเนียบรุ่น, ผลงานการสร้างประดิษฐานพระพุทธวังจันทร์ ล้ำหน้ารุ่นอื่นๆ อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจ และมีความประทับใจมากครับ... ประธานชมรมศิษย์เก่า พ.พ. ๑๔ –๑๖ ความเคลื่อนไหวทั่วไป ในช่วงเดือน ก.ย.และ ต.ค. ที่ผ่านมามีกิจกรรมแสดงความยินดี หลายงานเริ่มตั้งแต่ พล.ท.เด่นดวง ทิมวัฒนา ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพลโท จัดงานไปเมื่อ 29 ก.ย..55 ที่สนามกอล์ฟกองทัพบก มีเพื่อน ๆ และครอบครัวไปร่วมแสดงความยินดีมากมาย รวม 31 ท่านซึ่งตั้งแต่กินเลี้ยงประจำเดือนที่ กทม.ทุกครั้ง ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุด.................... .....................และในคำสั่งเดียวกัน พ.อ.สุทัศน์ ศรีหิรัญ ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พลตรี ซึ่งชมรมฯ ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ซึ่งได้ส่งอีเมล์แสดงความยินดีไปก่อนหน้านี้แล้ว........ทางด้านการเมืองท้องถิ่น คุณอนันต์ สิทธิรุ่งโรจน์ ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิก อบต.บึงพระอีกหนึ่งสมัย ซึ่งเพื่อนของเราเป็นหลายสมัยติดต่อกัน จนจำไม่ได้แล้ว ทำงานบริการประชาชนอย่างดีเยี่ยม ขอให้เป็นติดต่อกันไปเรื่อย ๆนะครับ.........และเพิ่งสด ๆ ร้อน ๆ ที่ผ่านมามีพื่อน ๆ เดินทางไปแสดงความยินดีกับท่านผู้ว่าบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ที่จ.สกลนคร ซึ่งท่านผู้ว่าฯ และคุณนายผู้ว่าฯ จัดเลี้ยงต้อนรับที่โรงแรมหนองหารดิอิลิแกรนท์ พร้อมที่พัก มีเพื่อน ๆ จาก จ.พิษณุโลก และกรุงเทพ เข้าร่วมกิจกรรม 40 คน และมีคุณต่อศักดิ์ เวชสวรรค์ เจ้าพ่อภาคอีสาน พาไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งได้รับความอนุเคราะห์จาก พี่สาวคุณวัชระ ภุมรินทร์ ดูแลคณะของพวกเราเป็นอย่างดี ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้................ที่ผ่านมา ทีมงานที่จะจัดงานราตรีสองแคว ต้องประชุมกันทุกสัปดาห์ คุณจรัญ วงศ์กังแห จึงได้บริจาคอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ในการประชุม สุราเบรนด์ 285 จำนวน 1 ลัง ขอขอบคุณมากครับ .............ขอแสดงความยินดีกับคุณบังอร เอกเอี่ยม ได้เลื่อนเป็นหัวหน้างาน ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครายละเอียดเกี่ยวกับตำเหน่งงาน ให้โทรถามเจ้าตัวเองนะครับ แต่ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นว่างั้นเถอะ............จากที่คณะพิษณุโลกเดินทางไปแสดงความยินดีที่เพื่อนได้เป็น พลโท. คุณเศรษฐา กิตติจารุรักษ์ ได้ช่วยค่าน้ำมันรถยนต์ 2,000 บาท มอบรูปหล่อพระเจ้าตาก 1 องค์ ,และยังได้ช่วยค่าพิมพ์บัตรงานราตรีสองแคว 3,000 บาท และเหมาโต๊ะไว้คนเดียว 3 โต๊ะต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงนะครับ และขณะนี้เพื่อนของเราได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 อ.เมือง ได้หมายเลข 4 เพื่อน ๆ ก็สนับสนุนด้วยนะ........................และเพื่อนที่ป่วยตอนนี้รักษาตัวที่บ้านก็คือคุณอิทธิพล อรรณพ ณ. อยุธยา. เพื่อนคนไหนว่างไปเยี่ยมได้นะครับ ให้กำลังใจกันหน่อย.................และ ต.ค.ที่ผ่านมา คุณธีรศักดิ์ เอื้ออริยกุล ได้เออรี่รีไทร์จากราชการแล้ว ตอนนี้บริหารงานที่คลินิกแล๊ปเต็มตัว เพื่อน ๆ สามารถพบตัวได้ตลอดเวลา................และที่ผ่านมาชมรมก็ขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนของเราหลายท่านที่สูญเสียผู้บังเกิดเกล้าหลายท่านนะครับ ซึ่งเมื่อชมรมทราบก็จะมีพวงหรีดในนามชมรม เป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพหนึ่งคืน และเงินทำบุญในนามชมรม มีมารดาของคุณดิเรก ปั้นประเสริฐ.........มารดาของคุณนิลวัฒน์ พัฒนพงศ์(แช่)........,มารดาของท่านอัยการวุฒิรัตน์ มีผดุง ซึ่งสำหรับท่านนี้ชมรมต้องขออภัยท่านอัยการมา ณ ที่นี้เพราะเมื่อทราบเรื่อง ก็ฌาปณกิจมาราดาของท่านอัยการไปแล้ว ดำเนินกิจกรรมไม่ทัน..........และมารดาของคุณญาณพิพัทธ์ โกมลพันธ์(สามารถ)...................และเพื่อนที่ได้ย้ายมาใกล้บ้านคือคุณธนวิทย์ จารุสาทิตย์ ได้ย้ายมาเป็นหัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จ.พิจิตร ขอแสดงความยินดีด้วยครับ............ และในช่วงทีผ่านมามีเพื่อนสนับสนุนกิจกรรมชมรมของเราดังนี้........1.พ.อ.นพชัย สนองคุณ บริจาคเงินช่วยเหลือ คุณปรีชา เสือทะยาน 1,000 บาท 2.คุณพงษ์พันธ์ วังซ้าย บริจาค 1,000 บาท 3.คุณนิทัศน์ รุ่งนภาเนตร บริจาค 1,000 บาท 4.คุณบังอร เอกเอี่ยม บริจาค 1,000 บาท 5.คุณอุทัย ดอนตุ้มไพร บริจาค 1,000 บาท6.คุณปารณีย์ อินสด(น่อย) บริจาคให้ปรีชา เสือทะยาน 1,000 บาท 7.พ.อ.ธนัญชัย พยัตพงษ์ บริจาค เสื้อจากโรงงาน 1 กระสอบประมาณ 150 ตัว เพื่อเป็นของขวัญในงานราตรีสองแคว และบางส่วนนำไปบริจาคกับเด็กด้อยโอกาสในคราวต่อไป และ 8.อ.คุณอานันท์ นิรมล(อนันท์นพ) โทรมาแสดงความประสงค์จาก จ.สงขลา ซื้อโต๊ะราตรีสองแคว 1 โต๊ะ 2,400 บาท และบอกไว้ว่าถ้ามาไม่ได้ ให้นำเงินบริจาคเข้าชมรมเลย ทั้งหมดที่กล่าวนามมานี้ ชมรมขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ขอให้สุขภาพแข็งแรง และตรงนั้นก็ต้องแข็งแรงด้วยเช่นกัน(เฉพาะผู้ชายนะครับ) อายุมั่นขวัญยื่นนะเพื่อนเอ๋ย......................และในเดือนต.ค.ชมรมได้มอบเงินช่วยเหลือปรีชา เสือทะยาน จำนวนเงิน 2,000 บาท เพื่อจะได้นำไปซื้อยา และดำรงชีพต่อไป.............งานราตรีสองแควใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งในงานบนเวทีจะมีการจับรางวัลแจกของชำร่วยให้กับผู้ร่วมงาน เพื่อน ๆ คนไหนสนใจจะบริจาคแสดงความประสงค์มาได้ตลอดเวลาเลยนะครับ ซึ่งล่าสุด......คุณวัชระ ภุมรินทร์แสดงความประสงค์จะบริจาคหมอนอย่างดีให้แล้ว แต่จำนวนยังไม่ได้แจ้ง ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้า......... ในวันเสาร์ที่ 24 พ.ย.นั้น จะมีกิจกรรมตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยจะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศล เพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว จำนวนเพื่อนที่เสียไปแล้ว ถ้าเป็นห้องเรียนก็เริ่มล้นห้องแล้ว ประมาณ 54 ท่าน.......เลี้ยงเพลพระวัดคูหาสวรรค์ ดำเนินการโดย.....มักคทายกนภดล จันทร์จำเนียร......หลังจากนั้นเพื่อน ๆ รับประทานอาหารกลางวันโดยพร้อมเพรียงกัน ....อิ่มหน่ำสำราญแล้ว........เวลาประมาณ 13.00 น.จะมีการบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ.หน้าศาลสมเด็จฯ มีการจัดโต๊ะเครื่องบวงสรวงโดยคุณอนันต์ สิทธิรุ่งโรจน์.......กล่าวนำการบวงสรวงโดย อ.ทรงพรต ภู่กร......................หลังจากนั้น เวลาประมาณ 14.30 น. ทุกคนแยกย้ายมาที่ เวทีกลางแจ้ง โรงเรียนสาธิตพิบูลสงครามเพื่อเตรียมงานด้านต่าง ๆ ต่อไป ชมรมของเราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 รวมระยะเวลา 31 ปีแล้ว เป็นเพื่อน ๆ กันทั้งนั้น ก่อนจบสารสัมพันธ์ฉบับนี้ผมจึงมีนิทานเรื่อง “เพื่อนรัก” มาฝาก “อัศวินเฒ่า” จำเป็นต้องเดินทางออกจากปราสาทเพื่อไปทำสงครามศาสนาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันไกลโพ้น แต่ด้วยความเป็นห่วงภรรยาคนใหม่มาก(ประมาณสวยใกล้ ๆ ตั๊ก บงกช นั้นแหละ) อัศวินจึงให้บริวารไปตามเพื่อนรักที่อยู่ต่างเมืองให้เดินทางมาหา “เพื่อนรัก ข้าเป็นห่วงเมียข้ามาก หล่อนเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในปฐพีนี้ หากข้าเดินทางไปนานกว่า 5 ปี แล้วไม่ได้กลับ แสดงว่าข้าอุทิศชีวิตเพื่อศาสนาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลานั้น ข้าขอให้เจ้าในฐานะที่เป็นเพื่อนที่ข้ารัก และไว้วางใจมากที่สุด (ประมาณว่าเป็นเพื่อนซื้แบบพวกเราว่างั้นเถอะ) จงดูแลหล่อนแทนข้าด้วย....... สิ่งที่ข้าขอให้เจ้าทำในระหว่างที่ข้าไม่อยู่ คือ ช่วยดูแลรักษากุญแจเข้มขัดกันชู้ของเมียข้าไว้” เช้าวันรุ่งขึ้น อัศวินเฒ่าล่ำลาเมียสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงส่งมอบกุญแจไขเข้มขัดกันชู้ให้เพื่อนรักก่อนที่จะออกเดินทางจากปราสาทไปทางทิศตะวันออก มุ่งหน้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลังจากเดินทางรอนแรมนาน 1 สัปดาห์ เพื่อนรักของอัศวินก็ขี่ม้าไล่ตามมาจนทัน “เพื่อนรัก เจ้าจะติดตามข้าไปสงครามยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หรอก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นห่วงข้า แต่เจ้าต้องพักอยู่ที่ปราสาท เพื่อทำหน้าที่คอยดูแล ระวังภัยให้เมียข้า” อัศวินเฒ่ายังคงใจเพชรเสมอ “ข้าไม่ตามท่านไปหรอก ข้ามาเพื่อนช่วยท่านแก้ไข ในสิ่งที่ท่านทำผิดต่อภรรยาของท่าน” “โอ พระเจ้า ข้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้องต่อเมียที่ข้ารักมากหรือ” “สิ่งที่ไม่ถูกต้อง คือ ลูกกุญแจที่ท่านมอบให้ข้าไว้มันผิดดอก ข้ามาขอดอกที่ถูกต้องเท่านั้น” ...............................................