โครงการหลวง ป่าสนวัดจันทร์

โครงการหลวง ป่าสนวัดจันทร์
โครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์

18/2/54

คาถา 3 บทในโอวาทปาฏิโมกข์


คาถา 3 บทในโอวาทปาฏิโมกข์
วันนี้เป็นวันดี วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เป็น "วันมาฆบูชา" วันที่ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดง "โอวาทปาฏิโมกข์" ต่อที่ประชุม พระสงฆ์สาวก 1,250 รูป ที่เดินทางมาร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายกัน และพระสงฆ์ทั้งหมดเป็น "พระอรหันต์" ที่ได้รับการอุปสมบทจาก พระพุทธเจ้า โดยตรง

ในวันมหามงคลเช่นนี้ผมจึงขอนำพระคาถา โอวาทปาฏิโมกข์ ที่ พระพุทธเจ้า ทรงแสดงต่อ พระอรหันต์ 1,250 รูป มาเล่าสู่กันฟัง มีด้วยกัน 3 บท ดังนี้

คาถาบทที่ 1 ขันติ คือ ความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าทั้งหลาย (พระพุทธเจ้ามีหลายองค์) กล่าวว่า นิพพานเป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่นไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต, ผู้เบียดเบียนคนอื่นไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

ความหมายของคาถาบทแรกนี้ก็คือ

1.ความอดทนอดกลั้น เป็นสิ่งที่นักบวชในศาสนานี้พึงยึดถือ และเป็นสิ่งที่ต้องใช้เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่ชอบใจทุกอย่างที่ต้องเจอในชีวิตนักบวช เช่น ประสงค์ร้อนได้เย็น ประสงค์เย็นได้ร้อน

2.การมุ่งให้ถึงพระนิพพานเป็นเป้าหมาย มิใช่สิ่งอื่นนอกนิพพาน

3.พระภิกษุและบรรพชิตในพระธรรมวินัยนี้ ไม่พึงทำให้ผู้อื่นลำบาก ด้วยการทำความทุกข์กายหรือทุกข์ใจ ไม่ว่าในกรณีใดๆ

4.พระภิกษุตลอดจนบรรพชิตในพระธรรมวินัยนี้ ต้องขอแก่ทายกด้วยอาการที่ไม่เบียดเบียน คือ ไม่เอ่ยปากเซ้าซี้ขอ ไม่ใช้ปัจจัยสี่อย่างฟุ่มเฟือยจนเดือดร้อนทายก

คาถาบทที่ 2 การไม่ทำความชั่วทั้งปวง 1 การบำเพ็ญแต่ความดี 1 การทำจิตของตนให้ผ่องใส 1 นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

คาถาบทนี้ถือเป็น หัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา เลยทีเดียว เพื่อสอนให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าถึงจุดมุ่งหมายของพระพุทธศาสนาที่แท้จริง เป็นการสรุปรวบยอดหลักธรรมที่พุทธบริษัทพึงปฏิบัติ อันได้แก่

1.การไม่ทำบาปทั้งปวง

2.การทำกุศลให้ถึงพร้อม

3.การทำจิตใจให้บริสุทธิ์

สรุปก็คือเรื่องของ ศีล สมาธิ และปัญญา นั่นเอง ใครที่ทำได้ครบถ้วนทั้ง 3 ข้อ อย่างสม่ำเสมอ ต้องถือเป็นเลิศคน และเป็นคนที่ดีเลิศจริงๆ

คาถาบทที่ 3 การไม่กล่าวร้าย 1 การไม่ทำร้าย 1 ความสำรวมในปาฏิโมกข์ 1 ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร 1 ที่นั่งนอนอันสงัด 1 ความเพียรในอธิจิต 1 นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

คาถาบทนี้เป็นการสอน พระธรรมทูต ผู้ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ใช้วิธีการที่เหมือนกัน ไปในแนวทางเดียวกัน และมีความถูกต้อง ดังนี้

1.การไม่กล่าวร้าย (เผยแผ่ศาสนาโดยไม่กล่าวร้ายโจมตีดูถูกความเชื่อผู้อื่น)

2.การไม่ทำร้าย (เผยแผ่ศาสนาด้วยการไม่ใช้กำลังบังคับข่มขู่ด้วยวิธีต่างๆ)

3.ความสำรวมในปาฏิโมกข์ (รักษาความประพฤติให้น่าเลื่อมใส)

4.ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร (เสพปัจจัยสี่อย่างรู้ประมาณพอเพียง)

5.ที่นั่งนอนอันสงัด (สันโดษไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ)

6.ความเพียรในอธิจิต (พัฒนาจิตใจเสมอ มิใช่ว่าเอาแต่สอน แต่ตนเองไม่ทำตามที่สอน)

พระคาถาทั้ง 3 บทใน โอวาทปาฏิโมกข์ นี้ แม้ พระพุทธเจ้า จะทรงเทศนาแก่ พระอรหันต์ 1,250 รูป ที่มาประชุม แต่เนื้อหาที่ผมนำมาเล่าทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่ชาวพุทธก็สามารถปฏิบัติได้ โดยเฉพาะคนที่เป็น "ผู้นำ" ไม่ว่าจะเป็น "ผู้นำองค์กร" หรือ "ผู้นำประเทศ" ถ้านำไปปฏิบัติ ผมเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นโดยอัตโนมัติ เมื่อทุกคนคิดดีทำดี บ้านเมืองก็ต้องดีตามแน่นอน.




"ลม เปลี่ยนทิศ"

ไม่มีความคิดเห็น: