โครงการหลวง ป่าสนวัดจันทร์

โครงการหลวง ป่าสนวัดจันทร์
โครงการหลวงป่าสนวัดจันทร์

24/9/54

มีของดี ๆ มาให้อ่านและ พยายามทำให้ได้‏

หนังสือ time magazine บอกว่า ที่อเมริกาได้ มีงานวิจัยพบ ว่าคนที่มีความ สุขมากที่สุดใน โลกก็คือพระใน ทางพุทธศาสนา
โดย ทดสอบด้วยการ สแกนสมอง ของพระ ที่ ทำสมาธิและได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นจริง

+ หลัก ความเชื่อของ ศาสนาพุทธก็คือ เหตุที่ทำให้ เกิดความสุข นั้นก็คืออยู่ กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยาก ที่ไม่มีสิ้น สุด
ไม่ ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และ ใช้หลักเวรย่อม ระงับด้วยการ ไม่จองเวร ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตา กรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น

+ อริยะ สัจ 4 สิ่ง ที่พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบและบอก ไว้ด้วย ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า "ความ สุข"
เพราะ ถ้าเมื่อไรเรา กำจัด "ความ ทุกข์" ได้ แล้วความสุขก็ จะเกิดขึ้น ทันที

+ อุปสรรค ของความสุขก็ คือแรงปรารถนา และ ตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คนเราจะมีความ สุขมันไม่มี ขึ้นอยู่กับว่า"มี เท่าไร"
แต่ ขึ้นอยู่ที่ว่า เรา "พอ เมื่อไร" ความ สุขไม่ได้ขึ้น กับจำนวนสิ่ง ของที่เรามี หรือเราได้...

+ ท่าน สังเกตเอาจาก ชาวนาที่ จ อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมี ความสุข แต่เมื่อไรที่ชาวนาคนไหนอยากจะได้ ควายตัวที่ 2 ปั๊ป
ชาวนา คนนั้นจะไม่มี ความสุขเลย เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดีถึงจะได้ควายอีกสักตัว เราก็เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคัน ใหม่ อยากได้บ้านใหม่
อยาก ไปเที่ยว อยากจะมัดใจไอ้หมอนั้นให้ได้ (อิ อิ) ฯลฯ เราจะเริ่มเป็นทุกข์ เพราะเราต้อง คิดหาทางที่จะ เอามันมา ให้ได้มาเป็นของเรา..

+ ดัง นั้นวิธีจะมี ความสุขอันดับ แรกต้อง "หยุด ให้เป็น และ พอใจให้ได้" ถ้า เราไม่หยุดความ อยาก(ที่มาก เกินไป)ของเรา แล้วละก็
เรา ก็จะต้องวิ่ง ไล่ตามหลายสิ่ง ที่เรา "อยาก ได้" แล้ว นั่นมันเหนื่อย และความทุกข์ ก็จะตามมา...

+ ข้อ ต่อมาที่ทำให้ เราเป็นสุขคือ การมองทุกอย่าง ในแง่บวก เมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถาม ว่าวันนี้เป็น ไงบ้าง ?
ส่วน ใหญ่เราจะตอบ ว่า "โดน บอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้างี่เง่า ฯลฯ " ทำไม เราถึงชอบคิด ถึงแต่เรืองไม่ ดี

+ ใน ชีวิตแต่ละวัน แน่นอนเราต้อง เจอทั้งเรื่อง ดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุข เราต้องเริ่ม ด้วยการมองแต่ สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก
เพื่อ ที่ใจเราจะได้ เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เรา ได้ทำ....

+ ข้อ ต่อมาคือการให้ หมายรวมถึงการ ให้ในรูปแบบ สิ่งของหรือ เงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ความ เมตตากรุณาต่อ กัน
ให้ อภัยทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความ สุข....

+ การ ปล่อยวางให้ได้ ในทุกสิ่งที่ เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะ ร้ายแรงและ เศร้าโศกเพียง ใด
จำ ไว้ว่ามันจะโดน เวลาพัดพามันไป จากเราไม่ช้าก็ เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต
ไม่ ว่าจะเป็น เรื่องที้เรา ไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
เรา ทุกคนต้องได้ ผ่านบททดสอบนี้ ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...

+ ขอ ให้เรารักษาใจ เราให้เป็น สุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ใจข องเรา นี่เอง

ทำให้ตนเองสดใสได้ ด้วยการยิ้มให้ตนเอง ทำให้คนอื่นสดใสได้ ด้วยการยิ้มให้เขา การยิ้มไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
แต่สร้างความสดใสได้มาก

ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน
นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก


คาถาที่ควรมีไว้ประจำใจ เมื่อจะซื้อของกินของใช้ ให้ท่องคาถาว่า จำเป็นไหม จำเป็นไหม

ถ้าขาดความพยายามแล้ว
อย่าว่าแต่เข็ญครกขึ้นเขาเลย
แม้แต่เข็ญครกลงเขา ก็ไม่มีทางทำได้

การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย
แต่การแก้แค้นลงทุนมาก

เขาด่าว่าเราไม่ถึงนาที เขาอาจลืมไปแล้วด้วย แต่เรายังจดจำ ยังเจ็บใจอยู่...
นี่เราฉลาดหรือโง่กันแน่

บ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วมีปัญหา ไม่รู้จะบ่นหาอะไร
เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น
ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง
ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร
ทำไมต้องเศร้าหมอง
ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ

อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก
อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก
จะเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิต

แม้จะฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธไม่ได้ แต่ฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธบ่อยได้ ฝึกให้เป็นผู้รู้จักให้อภัยได้

การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา
การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา

การชอบพูดถึงความดีของเขา คือความดีของเรา การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขา คือความไม่ดีของเรา

เราเข้าใจเขาผิด เรายังรู้สึกเสียใจ
เขาเข้าใจเราผิด ถึงเขาไม่พูด เขาก็คงรู้สึกเสียใจบ้างเหมือนกัน

โทษคนอื่นแก้ไขอะไรไม่ได้
โทษตนเองแก้ไขได้

แก้ตัวไม่ได้ช่วยอะไร แต่แก้ไขช่วยให้ดีขึ้น

การนอนหลับเป็นการพักกาย
การทำสมาธิเป็นการพักใจ
คนส่วนใหญ่พักแต่กาย ไม่ค่อยพักใจ

แม้อยู่ในสังคมที่เร่าร้อน เราก็ไม่จำเป็นต้องเร่าร้อนตาม
แม้จะอยู่ในสังคมที่เครียด เราก็ไม่จะเป็นต้องเครียด

รู้จักทำใจให้รักผู้บังคับบัญชา รู้จักทำใจให้รักลูกน้อง รู้จักทำใจให้รักเพื่อนร่วมงาน
สวรรค์ก็อยู่ที่ทำงาน

เกลียดผู้บังคับบัญชา
เกลียดลูกน้อง
เกลียดผู้ร่วมงาน
นรก ก็อยู่ที่ทำงาน

การที่เรายังต้องแสวงหาความสุข แสดงว่าเรายังขาดความสุข
แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสุขได้เอง ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาที่ไหน

รวย แต่ยังเป็นทุกข์มาก
มีเกียรติ แต่ยังเป็นทุกข์มาก
มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นทุกข์มาก
นั่นเพราะว่า...
ความทุกข์มากหรือทุกข์น้อย
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ แต่อยู่ที่... ความยึดมั่นถือมั่น มากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้น

โอกาสที่จะเป็นเศรษฐี มีไม่เท่ากัน
แต่โอกาสที่จะเป็นคนดี มีเท่ากัน

การทำบุญไม่ต้องรอตอนแก่
เพราะไม่แน่ว่าจะได้อยู่จนแก่หรือไม่
เพราะบางคนแก่แล้ว ยังไม่ได้ทำบุญก็มี
คนไม่ดี มักสนใจในความไม่ดีของคนอื่น
คนดี มักสนใจในความดีของผู้อื่น

อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวาน นั้นดี.... อ่อนข้อให้เขาบ้างก็ยังดี แต่...อ่อนแอนั้น ไม่ดี

ในการคบคน ศิลปะใดๆ ก็สู้ความจริงใจไม่ได้

จงประหยัด คำติ แต่อย่าตระหนี่ คำชม
อภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย

ถ้าคิดทำความดี ให้ทำได้ทันที
ถ้าคิดทำความชั่ว ให้เลิกคิดทันที
ถ้าเลิกคิดไม่ได้ ก็อย่าทำวันนี้
ให้พลัดวันไปเรื่อยๆ

ถึงจะรู้ร้อยเรื่องพันเรื่อง ก็ไม่สู้รู้เรื่องดับทุกข์
โลกสว่างด้วยแสงไฟ ใจสว่างด้วยแสงธรรม
แสงธรรมส่องใจ แสงไฟส่องทาง

ผู้สนใจธรรม สู้ผู้รู้ธรรมไม่ได้
ผู้รู้ธรรม สู้ผู้ปฎิบัติธรรมไม่ได้
ผู้ปฎิบัติธรรม สู้ผู้ที่เข้าถึงธรรมไม้ได้

มีทรัพย์มาก ย่อมมีความสะดวกมาก
มีธรรมะมาก ย่อมมีความสุขมาก

เมื่อก่อนยังไม่มีเรา
เราเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้เอง
และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก
จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา

“ ขอขอบคุณ ผู้ที่ได้จัดทำบทความนี้ จึงขอ ส่งต่อ ให้เพื่อนๆๆ เพื่อให้มีสติมากขึ้น และพร้อมที่ จะสู้ต่อไป

ดังเพลงที่ว่า “ ใจสู้หรือเปล่า ไหวไม๊บอกมา โอกาสทางข้างหน้า ศรัทธาไม่มีท้อ "มองชีวิตคุณให้ง่าย"

wachara2499@yahoo.com

1 ความคิดเห็น:

อุดร ชมกุล กล่าวว่า...

อ่านแล้วดีมากๆเลยคร้าบ จะพยายามทำตามให้ได้มากที่สุด อมิตตพุทธ